วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มอไซค์แพ๊งแพง


10 อันดับมอเตอร์ไซค์ที่แพงที่สุดในโลกปี 2012


เมื่อพูดถึงผู้ชาย พวกเขามีสิ่งที่คลั่งไคล้มากมายหลายอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นรถ สาวๆ หรือกีฬา แต่สิ่งที่คลั่งมากที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น “มอเตอร์ไซค์” ผู้ชายหลายคนรักที่จะคร่อมอยู่บนอานเจ้าสองล้อเครื่องเพราะมันทำให้บุคลิกของพวกเขาดูเท่และโดดเด่น ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ผู้ชายส่วนใหญ่รักรถ 2 ล้อ แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ดูเหมือนพวกเขาจะต้องการทำในสิ่งที่หลงใหลร่วมกับเพื่อนคู่ใจมากกว่า และมอเตอร์ไซค์ก็เป็นตัวเลือกดีที่สุดที่จะช่วยให้พวกเขาทำตามความต้องการนั้นได้
ปัจจุบันมอเตอร์ไซค์มีอยู่มากมายหลายแบรนด์ หลายรุ่น หลายสเป็ค ซึ่งแต่ละคันก็ให้อารมณ์ขณะขับขี่ที่แตกต่างกันออกไป แต่ประเด็นของเราในวันนี้ไม่ได้อยู่ที่การขี่มอเตอร์ไซค์ เพราะเราจะพูดกันถึงเรื่อง "ราคา" ที่ไม่ธรรมดาของพวกมัน คุณรู้หรือเปล่าว่าเจ้า 2 ล้อที่เราชื่นชอบบางคันมีราคาแพงกว่าสี่ล้อหลายๆ รุ่นเสียอีก และนี่คือ 10 อันดับมอเตอร์ไซค์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลกของปี 2012

10. Neiman Marcus Limited Edition Fighter


ประเดิมคันแรกกันที่มอเตอร์ไซค์ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันของบรรดาบริษัทยานยนต์ ชื่อของมันคือ “Neiman Marcus Limited Edition Fighter” เป็น 2 ล้อสุดเท่ที่สร้างจากเหล็กทั้งคัน พร้อมกับรูปลักษณ์ที่แสนจะโดดเด่นไม่ซ้ำใคร กับค่าตัวที่อาจทำให้ใครหลายคนกระเป๋าฉีกได้สบาย เพราะแค่อันดับที่ 10 ราคาก็ปาเข้าไปที่ 110,000 เหรียญ หรือประมาณ 3,275,800 บาท แล้ว

9. Coventry Eagle Flying – 8 (1928)


สำหรับเจ้า 2 ล้อคันต่อมามีชื่อว่า Coventry Eagle Flying – 8” ผลิตโดย Royal Eagle ใครที่คิดว่าเจ้านี่หน้าตาโบราณ บอกได้เลยว่าไม่แปลก เพราะมันถูกผลิตออกจำหน่ายครั้งแรกตั้งแต่ปี 1928 หรือ 80 กว่าปีมาแล้ว แต่กระนั้นปัจจุบันคุณก็ยังสามารถพบเห็นมันโลดแล่นอยู่บนท้องถนนได้แม้จะไม่บ่อยนัก แถมประวัติศาสตร์ของเจ้า Coventry Eagle ยังถือได้ว่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้มอเตอร์ไซค์คันไหนอีกด้วย มีคนดังหลายคนที่มีมันไว้ในครอบครองเป็นไม่ว่าจะเป็น บรูซ สมิธ (Bruce Smith), สตีเวน บรอดบริดจ์ (Stephen Broadbridge), จอห์น เอลลิส (John Ellis) และ เคน ฮอดจ์สัน (Ken Hodgson) ส่วนราคาของมันอยู่ที่ประมาณ 120,000 เหรียญ หรือ 3,573,600 บาท

8. Harley-Davidson Rocker


อันดับ 8 ตกเป็นของ “Harley-Davidson Rocker” จากผู้สร้างขาใหญ่แบรนด์ดังก้องโลกฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ที่ถูกนำมาปรับแต่งใหม่ตลอดทั้งคันโดยบริษัทปรับแต่งรถชื่อดัง House-of-Thunder ดูจากภาพแล้วแสนจะเข้ากั๊นเข้ากันกับเรือยอร์ชมูลค่า 22 ล้านเหรียญด้านหลัง ขณะที่เจ้า Rocker สีขาวนั้นติดป้ายราคาไว้ที่ 130,000 เหรียญ หรือ 3,871,400 บาท

7. Hildebrand & Wolfmüller


นี่คือมอเตอร์ไซค์เก่าเก็บของแท้เพียงหนึ่งเดียวที่ติดอยู่ในทำเนียบ 10 อันดับสองล้อที่แพงที่สุดในโลก กับอายุที่มากถึง 115 ปี มันคือสุดยอดความพิเศษหนึ่งเดียวจาก Hildebrand & Wolfmüller ต้นกำเนิดที่ทำให้รถ 2 ล้อที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ได้รับการขนานนามว่า“มอเตอร์ไซค์” (Motorcycle) เป็นครั้งแรก และแน่นอนว่าด้วยประวัติที่เลอเลิศขนาดนี้ ราคาย่อมต้องเลิศเลอไปด้วยกับมูลค่า 150,000 เหรียญ หรือ 4,467,000 บาท เห็นเก่าๆ แพงๆ อย่างนี้อย่าคิดว่าไม่มีใครสนใจ เพราะความหายากและทรงคุณค่าของมันทำให้บรรดานักสะสมรถในอเมริกายอมทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อให้ได้มันมาเป็นส่วนหนึ่งของคอลเล็กชั่นเลยทีเดียว

6. Hub-less Harley-Davidson


คว้ามาได้อีกอันดับสำหรับคัสตอมไบค์สีเขียวสดใสจากค่ายฮาร์เล่ย์ฯ ที่ Howards Killer Customs ลงมือปรับแต่งให้มีความโดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น โดยเฉพาะการติดตั้งล้อแบบ Hub less หรือล้อแบบไม่มีแกน ที่ทำให้เจ้าชอปเปอร์คันนี้ดูแตกต่างจากอันดับอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับราคาที่พุ่งกระฉูดไปถึง 155,000 เหรียญ หรือ 4,620,550 บาท


5. Ecosse FE Ti XX – Titanium Series


"Ecosse FE Ti XX” ไม่ได้มีดีเพียงแค่ราคาแพงแสนแพงถึง 300,000 เหรียญ หรือประมาณ 8,943,000 บาท มากกว่าอันดับ 6 ถึง 2 เท่า เท่านั้น แต่มันยังได้ชื่อว่าเป็นรถที่สวยงามที่สุดคันหนึ่งใน Titanium Series ที่ผลิตโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงอย่าง Ecosse Motor Works อีกด้วย โดยมาพร้อมกับขุมพลังที่น่าพิศวงอย่างเครื่องยนต์อะลูมิเนียมที่ให้กำลังถึง 225 แรงม้า ซึ่งตอนนี้ทางผู้ผลิตเปิดให้ผู้สนใจสามารถสั่งจองได้แล้ว ขณะที่ประเทศจีนได้รับเกียรติให้เป็นผู้เปิดประเดิมสินค้าล็อตแรก

4. Legendary British Vintage Black


สำหรับเจ้า 2 ล้อเครื่อง “Legendary British Vintage Black” สามารถครองอันดับที่ 4 ได้เพราะความพิเศษเพียงหนึ่งเดียวและความเป็นรถโบราณในตัวของมันเอง แม้มันจะไม่ใช่รถที่มีความเร็วมากมายแต่ก็เก่าแก่มากพอที่จะทำให้ค่าตัวของมันสูงถึง 400,000 เหรียญ หรือคิดเป็นเงิน 11,924,000 บาท ทิ้งห่างอันดับ 5 ไปไกลชนิดไม่เห็นฝุ่น

3. Gold-Plated Custom Chopper


เปล่งประกายแวววาวพราวระยับเลยทีเดียว สำหรับอันดับ 3 Gold-Plated Custom Chopper” ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในงาน International Motorcycle Show เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ที่ให้ภาพลักษณ์ความเป็น “มอเตอร์ไซค์โชว์” มากกว่ามอเตอร์ไซค์ที่ขี่เล่นทั่วไปด้วยการชุบทองส่วนที่เป็นโลหะทั้งหมด กับสนนราคา 500,000 เหรียญ หรือราว 14,905,000 บาท แต่เชื่อเถอะว่าหากคุณเป็นเจ้าของก็คงไม่อยากเอาเจ้า “ทองติดล้อ” คันนี้ไปออกไปซิ่งเท่าไหร่หรอก เพราะถ้าหายขึ้นมาคงได้นั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่ๆ

2. Ultra-rare Porcupine


มาที่อันดับ 2 กันบ้าง กับอีกหนึ่งในบรรดามอเตอร์ไซค์ที่ “โคตรหายาก” อย่าง Ultra-rare Porcupine” สองล้อสัญชาติอังกฤษที่ทาง AJS ผลิตขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2โดยเจ้าคันที่เห็นอยู่นี้ถูกจัดแสดงอยู่ที่ National Motorcycle Museum ในเมืองโคเวนทรี ตลอดช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ทางพิพิธภัณฑ์กลับปล่อยขายแล้วด้วยค่าตัวราว 750,000 เหรียญ หรือประมาณ 22,357,500 บาท


1. Million Dollar Harley by Jack Armstrong


ในที่สุดก็มาถึงอันดับ 1 ที่ฟังแค่ชื่อก็รู้ว่าแพงแล้วกับเจ้า Million Dollar Harley” จากค่ายบิ๊กเบิ้ม ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน อีกเช่นเคย แถมยังสามารถคว้าตำแหน่ง “มอเตอร์ไซค์คันแรกที่มีราคาทะลุหลักล้าน” มาครองได้อีกด้วย โดยผู้ที่ออกแบบเจ้ารถ “โคตรแพง” นี้ก็คือ แจ็ค อาร์มสตรอง (Jack Armstrong) ผู้มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนจากสไตล์งานเพ้นท์ “Cosmic Extensional”  ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กับราคา 1 ล้านเหรียญ หรือ 29,810,000 บาท เท่านั้นเอง



ที่มา  www.gettoptens.com

ตราสัญลักษณ์มูลค่าสูง



10 อันดับตราสัญลักษณ์มูลค่าสูงที่สุดในโลก



ล่าสุดทางด้านของ ดับบลิวพีพีแอนด์มิลล์วาร์ด บราวน์  ได้ออกมาเปิดเผยรายงานผลของการสำรวจมูลค่าตราสัญลักษณ์สินค้าประจำปีล่าสุด 2013  โดยในรายงานมีตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าอันมาหาศาลมากมายหลายบริษัท และวันนี้เราขอนำเสนอ 10 อันดับแรกที่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ให้ได้ชมกัน หลายๆตราสัญลักษณ์นั้นบอกเลยว่าเราเห็นมันแทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้ค่ะ
China Mobile

อันดับ 10 ของตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก คือ “China Mobile” มีมูลค่าอยู่ที่ 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Visa

อันดับ 9 ของตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก  คือ “Visa” มีมูลค่าอยู่ที่ 56,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Marlboro
อันดับ 8 ของตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก  คือ “Marlboro” มีมูลค่าอยู่ที่ 69,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


Microsoft

อันดับ 7 ของตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก คือ “Microsoft” มีมูลค่าอยู่ที่ 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


AT&T

อันดับ 6 ของตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก  คือ “AT&T” มีมูลค่าอยู่ที่ 76,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


Coca-Cola

อันดับ 5 ของตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก  คือ “Coca-Cola” มีมูลค่าอยู่ที่ 78,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


McDonald's

อันดับ 4 ของตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก  คือ “McDonald’s” มีมูลค่าอยู่ที่ 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


IBM

อันดับ 3 ของตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก  คือ “IBM” มีมูลค่าอยู่ที่ 113,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


>Google

อันดับ 2 ของตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก คือ “Google” มีมูลค่าอยู่ที่ 114,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


Apple

อันดับ 1 ของตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก  ”Apple” ด้วยมูลค่าสูงลิบลิ่วถึง 185,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ




สัตว์หายากที่สุดในโลก!!!!!



Glaucus atlanticus หนึ่งในสัตว์หายากที่สุดในโลก



Glaucus atlanticus เป็นสัตว์น่าตาประหลาดมีสีสันสวยงามถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า มังกรน้ำเงิน ( The Blue Dragon ) เจ้ามังกรน้ำเงินนี้ เป็นสัตว์จำพวกหอยและปลิง ซึ่งมันหายากที่สุดในโลกชนิดหนึ่งที่มีอยู่บนโลกของเรา มีขนาดลำตัวประมาณ 3-4 เซติเมตร  ด้วยสีสันและลักษณะตัวที่มีความแปลกมองคล้ายๆกับมังกรในเทพนิยายทำให้มันมีความสวยงามมากๆเลย การที่จะพบเจ้าสัตว์ชนิดนี้นั้นเป็นไปได้ยากมาก
ถือเป็นสัตว์ที่สุดในโลกชนิดหนึ่งเลยนะคะ หายากและสวยงาม เราจะมีโอกาศได้พบเจ้าสัตว์ชนิดนี้บ้างซักครั้งมั้ยน่ะ หายากอย่างนี้อยากเจอซักครั้งจริงๆ ตัวเป็นๆ เลย ต้องบอกว่าโลกของเรานั้นยังมีสัตว์แปลกๆที่หายากและมีความสวยงามซ่อนอยู่ถือเป็นสิ่งที่น่าค้นหาและนาดูมากๆเลย เอาหละมาดูภาพเจ้าสัตว์ที่ว่านั้นเลยดีกว่าค่ะ
Glaucus atlanticus

Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus atlanticus
Glaucus
Glaucus atlanticus
เป็นไงบ้างล่ะคะ หึหึ

มหาวิทยาลัยด้าน IT



10 อันดับ มหาวิทยาลัยดีที่สุดในโลกด้านคอมพิวเตอร์

และเทคโนโลยี


โดยการจัดอันดับในครั้งนี้มีการอ้างอิงจาก 4 ปัจจัยหลักคือ ระดับของการจ้างงาน ระดับของการอ้างอิงจากงานตีพิมพ์ ระดับของงานวิชาการ และระดับของงานวิจัย โดยการจัดอันดับในครั้งนี้นั้นเป็นผลงานของ QS World Ranking ส่วนจะมีมหาวิทยาลัยไหนติดอันดับเข้ามากันบ้างก็ต้องมาติดตามไปพร้อมๆกันเลยค่ะ

University of Hong Kong
เริ่มต้นกันด้วยอันดับ 10 เป็นมหาวิทยาลัย University of Hong Kong
มหาวิทยาลัยจากฮ่องกง แห่งนี้ไต่อันดับขึ้นมาจากปีที่แล้วจากอันดับ 21 มาติดอันดับ 10 ในปีนี้ถือว่าเป็นการพัฒนาการที่ก้าวกระโดดและน่าสนใจเป็นอย่างมาก น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยถ้าจะไปเรียนที่นี่

 ETH Zurich
ส่วนอันดับ 9 นั้นได้แก่มหาวิทยาลัย ETH Zurich
สถาบันการศึกษาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับความสามารถด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี ของมหาวอทยาลัยแห่งนี้ บอกได้เลยว่าเต็มเปี่ยมอยู่ในอันดับท็อปเทนของเราในครั้งนี้ได้เช่นเคย ถึงแม้ว่าจะร่วงลงมา 1 อันดับจากการจัดอันดับในปีที่แล้วก็ตามที


National University of Singapore
ต่อกันด้วยอันดับ 8  มหาวิทยาลัย National University of Singapore
มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ แห่งนี้มีพัฒนาการที่ดีและไต่อันดับขึ้นมา 1 อันดับจากปีที่แล้ว และที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือมหาวิทยาลัยจากสิงคโปร์ล้วนแล้วแต่ปรับอันดับดีขึ้นทั้งนั้นส่งผลให้เห็นว่าการศึกษาในสิงคโปร์นั้นมีคุณภาพมากๆ และไม่ไกลจากบ้านเราน่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ


University of California, Berkeley
ต่อกันกับอันดับ 7 มหาวิทยาลัย University of California, Berkeley
ใครที่สนใจเรียนด้านคอมพิวเตอร์ที่มีคุณภาพ สถาบันในอเมริกาแห่งนี้ก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะเพราะว่าสถาบันการศึกษาแห่งนี้ติดอันดับเข้ามาทุกครั้ง ถึงแม้ว่าปีนี้จะร่วงลงมาจากอันดับ 4 ในปีที่แล้วก็ตามที


ต่อกันด้วยอันดับ 6 มหาวิทยาลัย Harvard University
มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยมของโลกในสาขาคอมพิวเตอร์ ซึ่งอัดแน่นด้วยคุณภาพการสอนและงานวิจัยที่ยอดเยี่ยมได้รับอันดับ 6 ไปครองในปีนี้ ที่สำคัญพี่ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง facebook เคยเรียนอยู่ที่นี่ด้วยนะคะ


 University of Cambridge
มาถึงครึ้งทางกับอันดับ 5 มหาวิทยาลัย University of Cambridge
เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่จากอังกฤษ ติดโผเข้ามาในอันดับที่ 5 ของปีนี้ โดยมีความโดดเด่นในเรื่องของผลตอบรับจากนายจ้างที่พอใจบัณฑิตที่จบไปมากๆ ซึ่งเป็นผลให้ไต่อันดับจากที่ 7 ในปีที่แล้วขึ้นมาถึง 2 อันดับในปีนี้นั่นเอง


 Carnegie Mellon University
เดินทางมาถึงอันดับ 4 มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon University
CMU มหาวิทยาลัยที่มีความพร้อมและความแข่งแกร่งในด้านของสาขาคอมพิวเตอร์ โดยจากผลคะแนนด้านการเรียนการสอนมีเพียง MIT เท่านั้นที่เหนือกว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้


University of Oxford
แล้วก็มาถึงอันดับ 3 มหาวิทยาลัย University of Oxford
เป็นมหาวิทยาลัยที่เกห่าแก่จากอังกฤษอีกหนึ่งสถามัยน ที่ไต่จากอันดับ 6 ในปีก่อนมาติดถึงอันดับ 3 ในปีนี้ ใครสนใจจะไปศึกษาที่นี่ก็ลองเตรียมตัวกันไปนะคะ


 Stanford University
และอันดับ 2 ได้แก่ มหาวิทยาลัย Stanford University
มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้รับคะแนนความโดดเด่นด้านการวิจัยที่เป็นเลิศ และถึงแม้ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในด้านของการบริหาร แต่ว่าในด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี ก็มีความเป็นคุณภาพเช่นเดียวกันจึงทำให้กลายเป็นรองแชมน์ของปีนี้ไปนั่นเอง


Massachusetts Institute of Technology
และก็มาถึงอันดับ 1 มหาวิทยาลัย Massachusetts Institute of Technology
นับเป็นสถาบันที่มีความสุดยอดทางด้าน IT จริงๆสำหรับ  MIT ที่ปีนี้ยังรักษาชื่อเสียงของสถาบันด้านเทคโนโลยีอันดับ 1 ของโลกไว้ได้เช่นเคย ด้วยความเป็นเลิศด้านวิชาการ การเรียนการสอนคุณภาพสูง นักศึกษาได้เข้าไปเรียนนี่ล้วนแล้วแต่เป็นระดับหัวกระทิจากทั่วโลก และน่าจะเป็นที่ 1 ของโลกไปอีกหลายปีอย่างแน่นอนเลย