วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

ดอกไม้แปลกๆในโลก



10 สุดยอดดอกไม้แปลกๆในโลก


1. Rafflesia arnoldii หรือดอกบัวผุด
เป็นกาฝากชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่บนรากของพืชจำพวกเถาองุ่นป่า (Tetrastigma) ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า ย่านไก่ต้ม มีลักษณะเด่นที่ดอกซึ่งเป็นดอกเดียวขึ้นจากพื้นดินมีขนาดใหญ่ มีกลิ่นเหม็นมาก ให้เห็นระหว่างฤดูฝน ระหว่างพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม
ดอก ตูมอยู่จะคล้ายกับหม้อขนาดใหญ่มีกลีบหนาจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางของดอก 70-80 เซนติเมตร ที่โคนของดอกมีกลีบนำสีน้ำตาลอมเหลืองเรียงสลับซับซ้อนกันอยู่มาก ภายในดอกจะมีแผ่นแบนคล้ายจาน ด้านบนมีปุ่มคล้ายหนามแหลมจานนี้จะซ้อนเกสรตัวผู้และรังไข่ไว้ด้านล่าง ดอกจะบานอยู่ได้เพียง 4-5 วันเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ ดำเน่าไป ดอกบัวผุดพบใน อำเภอพนม บนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก ในจังหวัดสุราษฎ์ธานี ซึงเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี



2. Titan Arum ดอกซากศพ หรือดอกบุกยักษ์
ดอกไม้ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง หรือ ชื่อทางวิทยาศาสตร์ " Amorphophallus titanum " ชื่อวิทยาศาสตร์แปลเป็นภาษาไทยได้ความหมายว่า ต้น "ลึงค์ยักษ์แปลง" คือแปลงกายให้เหมือนลึงค์แต่ไม่ใช่ลึงค์ เป็นพืชในเขตป่าร้อนชื้น ในพืชตระกูล "บัวผุด" (Rafflesia) เป็นดอกไม้เดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาณาจักรพืช พบขึ้นอยู่บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ลำพังตัวช่อดอกแทงยอดตั้งขึ้นไปกว่า 3 เมตร จึงพืชสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองจากสัตว์บางชนิด ขณะเดียวกัน กลิ่นน่าสะอิดสะเอียนที่หึ่งไปทั่ว กลับเย้ายวนแมลงบางชนิดให้มาดูดน้ำหวาน และผสมเกสรให้มัน กล่าวกันว่ากลิ่นของดอก Titan Arum คล้ายกับเนื้อเน่าสำหรับคน แต่กลับเป็นกลิ่นหอมยั่วน้ำลายแมลงเต่าที่ชอบกินของเน่าและแมลงวันให้มาช่วย ผสมเกสร กลีบดอกสีแดงเข้มยังช่วยลวงตาให้สัตว์นึกว่าเป็นก้อนเนื้อขนาดใหญ่น่าตอม ด้วย ซึ่งจะบาน 72 ชั่วโมง



3. Hydnora africana
พืชพื้นเมืองไปภาคใต้ แอฟริกา พืชเจริญเติบโตใต้ดินยกเว้นดอกไม้อ้วนที่ปรากฏบนพื้นและส่งเสียงของกลิ่น อุจจาระ เพื่อดึงดูดธรรมชาติ ผสมเกสร , ด้วงมูลสัตว์ และ ซากสัตว์ด้วง ดอกไม้ทำหน้าที่เป็นกับดักสำหรับระยะเวลาสั้น ๆ ยึดด้วงที่ใส่แล้วปล่อยพวกเขาเมื่อดอกไม้บานเต็มที่


4. Helicodiceros muscivorus - Dead horse arum lily
เป็นไม้ประดับ พื้นเมืองในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน มีกลิ่นเหมือนเนื้อเน่าเหม็นหึ่ง, ดึงดูดแมลง ให้มาผสมเกสร



5. ดาร์ลิงโทเนีย (Darlingtonia), Cobra Lilly, ลิลลี่งูเห่า

ลิลลี่งูเห่า เป็นพืชกินแมลงกลุ่มเดียวกับซาราซีเนียและ Heliamphora มีชื่อเสียงในแง่ของความแปลกประหลาด น่าพิศวงและสวยงามเป็นอย่างยิ่ง แต่ขณะเดียวกันก็มีชื่อด้านตรงข้ามในแง่ของความบอบบางจนกล่าวกันว่า ลิลลี่งูเห่าเป็นพืชกินแมลงที่เลี้ยงยากที่สุดในโลก แม้แต่ในถิ่นที่ลิลลี่งูเห่ากำเนิดเป็นดงใหญ่ ชาวบ้านในละแวกนั้น ขุดมาใส่กระถางก็ยังตาย ดาร์ลิงโทเนีย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Darlingtonia californica ค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1841 โดยผู้ช่วยนักพฤกษศาสตร์นาม J.D. Brackenridge ในหนองน้ำแฉะทางตอนเหนือของรัฐ californica ซึ่งมีภูมิอากาศคล้ายคลึงกับประเทศไทย
ดาร์ลิงโทเนียเป็นพืชล้มลุกไม่มีเนื้อไม้ อายุหลายปี มีต้นฝังอยู่ใต้ดินเรียกว่าเหง้า รากแตกเป็นฝอยเล็กๆ ไม่มีรากแก้ว ใบของมันจะแทงขึ้นพ้นพื้นดินลักษณะเป็นกอ เช่นเดียวกับซาราซีเนีย แต่ความแตกต่างที่เห็นชัดคือว่า กรวยที่ยกขึ้นเป็นหลอดด้านหนึ่งจะโค้งงอเป็นรูปโดม จนไปชนปลายกรวยอีกด้านหนึ่งเหลือไว้เพียงรูเล็กๆ พอให้แมลงมุดขึ้นไปได้ ฝากรวยแปลงรูปไปเป็นแผ่นคล้ายลิ้นงู 2 แฉก แล้วกรวยของมันยังบิดตัวหมุนกลับ 180 องศา ทำให้ลิ้น 2 แฉกหมุนกลับมาอยู่นอกกอ ยอดโดมเป็นเนื้อเยื่อใสคล้ายพลาสติก แสงลอดผ่านได้ ใช้กลิ่นหอมของน้ำหวาน ที่มันผลิตขึ้นบริเวณปากทางเข้า เป็นตัวหลอกล่อให้แมลงเดินเข้าไปยังกับดักและตกลงไปตายในที่สุด
แต่เจ้าลิลลี่งูเห่าทำได้แยบยลกว่านั้น น้ำหวานที่มันผลิตจะหลอกล่อให้แมลงเดินเข้าไปในรูเปิดเล็กๆ บริเวณลิ้นงูเห่า ซึ่งผนังภายในมีน้ำหวานจำนวนมาก แมลงอาจลังเลที่จะมุดตัวเข้าไปในกรวยที่เต็มไปด้วยน้ำย่อย แต่เมื่อมันมองเข้าไปด้านใน มันจะเห็นแสงสว่างส่องมาจากด้านบนของโดม ซึ่งใสคล้ายพลาสติกทำให้มันหลงกลคิดว่าด้านบนคือท้องฟ้า หากเกินเหตุอันตรายมันก็สามาถบินหลบหนีขึ้นไปได้ทันที แมลงเคราะห์ร้ายจึงชะล่าใจมุดเข้าไปกินน้ำหวานลึกเข้าไปในกรวยที่มีขน ละเอียดและแหลมคม หันไปทิศทางเดียวกันทำให้แมลงไม่สามารถเดินย้อนกลับได้


6. Heliamphora
เป็นพืชที่มีเหมือกเหนียวสำหรับดักแมลง กลไกของดอกจะมีซอกซับซ้อนที่ทำให้แน่ใจว่าไม่สามารถมีเหยื่อเล็ดรอดไปได้ และเหยื่อจะถูกละลายด้วยน้ำเมือกที่เป็นกรด



7. Drosera หรือ หยาดน้ำค้าง
หยาดน้ำค้างเป็นพืชกินสัตว์สกุลใหญ่สกุลหนึ่ง มีอยู่ประมาณ 170 ชนิด เป็นสมาชิกในวงศ์หญ้าน้ำค้าง ล่อ, จับ และย่อยแมลงด้วยต่อมเมือกของมันที่ปกคลุมอยู่ที่ผิวใบ แมลงจะใช้เป็นสารเสริมทดแทนสารอาหารที่ขาดไปจากดินที่ต้นหยาดน้ำค้างขึ้น อยู่ มีหลากหลายชนิด ต่างกันทั้งขนาดและรูปแบบ สามารถพบได้แทบจะในทุกทวีป
ในประเทศไทยพบหยาดน้ำค้างอยู่ 3 ชนิดคือ จอกบ่วาย (Drosera burmannii Vahl), หญ้าน้ำค้าง (Drosera indica L.) และ หญ้าไฟตะกาด

8. Dionaea/Venus Flytrap หรือ กาบหอยแครง
กาบหอยแครง (อังกฤษ: Venus Flytrap) เป็นพืชกินสัตว์ที่ดักจับและย่อยกินเหยื่อที่จับได้ ซึ่งส่วนมากเป็นแมลงและแมง กาบหอยแครงมีโครงสร้างกับดักคล้ายคล้ายบานพับแบ่งออกเป็น 2 กลีบ อยู่ที่ปลายใบของแต่ละใบ และมีขนกระตุ้นบางๆบนพื้นผิวด้านในกับดัก เมื่อแมลงมาสัมผัสขนกระตุ้นสองครั้ง กับดักจะงับเข้าหากัน การที่ต้องการสิ่งกระตุ้นที่ซับซ้อนนี้ก็เพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงานไป กับการดักจับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่อาหาร


9. Nepenthes หรือ หม้อข้าวหม้อแกงลิง
หม้อ (Pitcher) ของต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง คือเครื่องมือของนายพราน - กับดักสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก - ที่พืชสกุลนี้ส่วนใหญ่ (แต่ไม่ทุกต้น) มีไว้เพื่อหาอาหารที่ขาดแคลนในแหล่งดิน มันหลอกล่อเหยื่อให้เดินเข้ากับดักโดยอาศัยกลิ่นเลียนแบบกลิ่นอาหารตาม ธรรมชาติของเหยื่อ อาจเป็นกลิ่นน้ำหวาน กลิ่นเนื้อสัตว์ กลิ่นแมลงเพศเมีย ฯลฯ หรือยั่วยวนเหยื่อด้วยสีสัน หรือน้ำหวาน หม้อข้าวหม้อแกงลิง บางสายพันธุ์สามารถสะท้อนแสงยูวี (Ultraviolet)จากบริเวณปากหม้อ โดยเฉพาะหม้อแถบบอร์เนียว หลักการคล้ายกับการล่อแมลงโดยใช้แสงจากหลอดที่ชาวบ้านเรียกแบล็คไลท์ใช้ล่อ แมงดานา หม้อข้าวหม้อแกงแกงลิงก็มีแบล็คไลท์เพื่อล่อแมลงกลางคืน ด้านในและใต้ส่วนที่งุ้มโค้งของปากหม้อ (peristome) ส่วนใหญ่เป็นแหล่งผลิตน้ำหวานปริมาณ
N. mirabilis ชอบกินมดมาก เมื่อมดแมลงพยายามชะโงกตัวดูดกินน้ำหวานใต้ปากหม้อที่ลื่นและผิวเป็นคลื่น ตามแนวที่เหยื่อชะโงกอยู่ยืน นอกขจากนี้ ผิวที่ปากหม้อยังมีไขมันเคลือบเป็นมัน เหยื่อจึงมีโอกาสพลัดตกลงไปในหม้ออย่างง่ายดาย
หม้อ แต่ละชนิด จะดึงดูดเหยื่อไม่เหมือนกัน เช่นหม้อข้าวหม้อแกงลิงของไทยที่ชื่อ Nepenthes mirabilis เก่งในการล่อมดดำให้ตกลงไปในหม้อคราวละมากๆ บางครั้งเคยเห็นหม้อที่มีมดเกือบเต็ม ในขณะที่หม้ออัลบอ (N. albomarginata ) เก่งในทางหลอกล่อปลวก

10.Byblis
เป็นพืชที่เล็กที่สุดในตะกูลต้นไม้กินแมลง ใบผิวของขนหนาแน่นด้วยต่อมขับ เมือก สารจากปลายของเกสร ดึงดูดแมลงเล็กๆให้มาติดกับ ซึ่งเมื่อสัมผัสหลั่งเหนียว ก็จะไม่มีความแข็งแรงพอที่จะหลบหนี แมลงหรือเหยื่อก็จะเสียชีวิตด้วยความอ่อนเพลียทำให้หายใจไม่ออก เมื่อเมือกปกคลุมและอุดตันเส้นทางหายใจ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : http://roypad.com/?p=190

แปลกกกก

พืชแปลก
1.พายเบอร์รี่

คำว่า 'พายเบอรี่' เกิดจากการนำชื่อของสับปะรดและสตรอเบอรี่มารวมกัน  รูปทรงคล้ายสตรอเบอรี่  แต่มีสีขาวและมีเมล็ดสีแดงแทรกอยู่บนผิว  มีรสชาติและกลิ่นเหมือนสับปะรด  เป็นผลไม้ป่าของทวีปอเมริกาใต้ที่ใกล้สูญพันธุ์  มีขนาดผลประมาณ  15 - 23  มิลลิเมตร  สามารถหาซื้อกินได้ในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายนเท่านั้นemotion
-----------------------------------------------------------------------------
2.กุหลาบสีรุ้ง
กุหลาบสีรุ้งเป็นดอกไม้ที่ไม่มีกลิ่น  กลีบดอกมีหลากสีสัน  ลำต้นยาวประมาณ 40 - 100 เซนติเมตร  เมื่อดอกกุหลาบบานเต็มที่จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เซนติเมตร  ปีเตอร์ ฟาน เดอร์ แวร์เคิน เจ้าของบริษัทดอกไม้ในประเทศฮอลแลนด์เป็นผู้คิดค้น  วิธีการผลิตทำได้โดยการฉีดสารสีเข้าไปที่ลำต้นของกุหลาบ  กลีบกุหลาบจะดูดซับสีนั้นเอาไว้จนได้กุหลาบสีรุ้งออกมา  emotion
-----------------------------------------------------------------------------
3.ต้นเบาบับ
เป็นต้นไม้พื้นเมืองของทวีปแอฟริกา  มีความสูง 5 - 30 เมตร  ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 - 11 เมตร  บางครั้งอาจเรียกว่า 'ต้นไม้กลับหัว' เพราะช่วงที่ต้นเบาบับผลัดใบจนหมดจะเหลือเฉพาะกิ่งก้านดูเหมือนรากไม้ชี้ขึ้นฟ้าเมื่ออากาศแห้งแล้งต้นเบาบับก็สามารถอยู่รอดได้  เพราะในลำต้นสามารถเก็บน้ำได้มากถึง 120,000 ลิตร  เชื่อกันว่าใครปลูกต้นเบาบับจะมีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต  emotion
-----------------------------------------------------------------------------
4.ดอกเทียนนกแก้ว
ดอกเทียนนกแก้ว  เป็นพืชหายากชนิดหนึ่ง  พบเฉพาะที่สูงทางภาคเหนือของประเทศไทย  เป็นพืชล้มลุก  ลำต้นอวบน้ำ  สูงประมาณ 0.5 - 1.5 เมตร  ดอกมีรูปทรงสวยงามเหมือนนกที่โดนแมวกัดไปครึ่งตัว  มีสีม่วงแกมแดงและขาว  ขนาด 2 - 3 เซนติเมตร  ออกดอกในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายนของทุกปี  emotion
-----------------------------------------------------------------------------
5.ว่านค้างคาวดำ
ว่านค้างคาวดำมีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น ว่านหัวลา ว่านพังพอน ว่านนางครวญ และมังกรดำ  พบในป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้น  เป็นไม้ล้มลุก  มีเหง้าใต้ดิน  ดอกสีม่วงดำ  ก้านใบแผ่เป็นครีบดอกคล้ายค้างคาวบิน  มีใบประดับกลมยาวสีม่วงดำเหมือนหนวดแมวประมาณ 10 - 25 เส้น  นิยมปลูกเป็นไม้ประดับและนำมาต้มดื่มเป็นสมุนไพรบำรุงกำลัง  emotion
-----------------------------------------------------------------------------
6.ดอกทานตะวันสีดำ
ดอกทานตะวันสีดำพบในสหราชอาณาจักร  ลักษณะเด่นอยู่ตรงที่ลำต้นแคระแกร็น  สูงประมาณ 4 ฟุต  มีดอกสีแดงม่วงเข้มอมน้ำตาลจนดูเป็นสีดำ  เริ่มออกดอกในช่วงเดือนมิถุนายน - ตุลาคมของทุกปี  ดอกทานตะวันสีดำมีหลายพันธุ์  แต่พันธุ์ที่มีสีดำเข้มที่สุดคือ แบล็ก เมจิก เอฟ วัน  emotion
-----------------------------------------------------------------------------
7ต้นไม้มังกร

ต้นไม้มังกรพบในหมู่เกาะคะเนรี ประเทศสเปน  มีลำต้นเพียงลำต้นเดียวหรือมากกว่าหนึ่งลำต้นก็ได้  สูงประมาณ 12 เมตร  รูปทรงคล้ายร่ม  มีใบหนา  เป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตช้า  สูงขึ้นเพียงปีละ 1 เมตรเท่านั้น  เมื่อฟันบริเวณโคนต้นไม้มังกร จะมีของเหลวสีแดงไหลออกมา  เรียกกันว่า 'เลือดมังกร'
emotion
-----------------------------------------------------------------------------
8.ลิลลี่งูเห่า
เป็นพืชกินแมลงที่เลี้ยงยากที่สุดในโลก  มีรากแตกเป็นฝอยเล็กๆ ไม่มีรากแก้ว  ใบมีลักษณะแทงขึ้นพ้นพื้นดินเป็นกอคล้ายงูเห่า  จับแมลงโดยใช้กลิ่นหอมของน้ำหวานหลอกล่อให้แมลงบินเข้าไป  เมื่อแมลงมองเข้าไปด้านในจะเห็นแสงสว่างส่องมาจากด้านบน  ทำให้คิดว่าเป็นท้องฟ้า  แต่ว่าแมลงก็ไม่สามารถเดินกลับออกมาด้านนอกได้เพราะมีขนแหลมภายในกรวยคอยทิ่มอยู่  emotion
-----------------------------------------------------------------------------
9.จอกบ่วาย
จัดอยู่ในกลุ่มพืชกินแมลงพบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย  ใบเป็นแผ่นมนรีลักษณะคล้ายช้อนเรียงกันเป็นรูปวงกลม  มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 - 3 เซนติเมตร  ช่วงต้นฤดูฝนใบมีสีเขียว  แต่ในช่วงปลายฤดูฝนใบจะมีสีแดงเรื่อตามขอบใบ  บนใบจะมีขนเล็กๆ จำนวนมากซึ่งมีน้ำหวานเหนียวๆ คล้ายหยาดน้ำค้างทใช้ดักจับมดแมลงไว้เป็นอาหาร  อีกชื่อหนึ่งของจอกบ่วายคือ 'หยาดน้ำค้าง'  emotion
-----------------------------------------------------------------------------
10.ปีศาจทะเลทราย

 ปีศาจทะเลทรายเป็นพืชโบราณไร้ดอก  มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทะเลทรายนามิบ  ระหว่างประเทศนามิเบียและประเทศแองโกลา  มีเพียงลำต้น ราก และใบเท่านั้น  ลำต้นหนา  มีอายุประมาณ 400 - 1,500 ปี  เมื่อเติบโตเต็มที่จะมีความสูงประมาณ 6 ฟุต กว้าง 24 ฟุต บางคนคิดว่ามันรูปร่างเหมือนมนุษย์ต่างดาว  emotion